This is Islam

8/12/2553

คำฟัตวาเกี่ยวกับเรื่องการใช้เสียงกุรอานมาทำเป็นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์

mobile ringtonr
สำนัก ข่าวอิสลามออนไลน์รายงานจากการประชุมของ The Saudi-based Islamic Jurisprudence Council, an affiliate of the Muslim World League (MWL)

โดย ในที่ประชุมได้มีการตัดสินชี้ขาด หรือออกคำฟัตวาเกี่ยวกับเรื่องการใช้เสียงกุรอานมาทำเป็นเสียงเรียกเข้าของ โทรศัพท์มือถือ หรือริงโทนว่า ไม่สามารถทำได้
โดยเกรงว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้ หากเสียงดังกล่าวดังขึ้นในสถานที่ ที่ไม่เหมาะสม
คำฟัตวาดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมครั้งที่ 19 ของสภาที่มีการขัดเลือกจากผู้เชียวชาญด้านศาสนาจากประเทศต่างๆ มีสมาชิก 70 คน
ร่วมประชุมกันที่มหานครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย
จาก http://www.pinonlines.com/
read more...

วันแห่งความรัก‏

เมื่อมันมาเยือน...
ในรุ่งอรุณ  ในสนธยา  ในรัตติกาล
ฤดูกาลแห่งรักขับขาน
เชื้อเชิญ...หมู่ผองผู้อ่อนแอ
เมื่อกลีบกุหลาบงามกรุ่นกลิ่นในห้วงฝัน
ได้เรียงรายบนหัวใจของผู้มืดบอดในศรัทธา
เมื่อเขาได้แสวงหา...วันแห่งความรัก
พินิจเถิด...โอ้ศรัทธาชนแห่งอิสลาม
ฤาจักเดินตามก้นยาฮูดี
ฤาจักลงรู้แย้เฉกนัซรอนี
ฤาจักเคาะประตูสู่ซีนา
จากนั้นแล้ว...จึงหลั่งไหลสู่ขุมนรกเอวจี
เมื่อมันมาเยือน...
ในรุ่งอรุณ  ในสนธยา  ในรัตติกาล
ผลักไสเถิด...โอ้ศรัทธาชนแห่งอิสลาม

                                                     ROTI-MATABA
                                                ฉบับที่ 25 ประจำเดือนกุมภา มีนา เมษา 2551
                                                คอลัมท์ คำนึง(Kham - Nung) .....ปาหนัน
read more...

หนุ่ม - สาว

วันนี้ คิดถึง รู้บ้างไหม
ทำอะไร ทำไม ไม่ติดต่อ

ตื่นตอนไหน ไม่โทรบอก คนเฝ้ารอ
จ้องแต่จอ โทรศัพท์ นับเวลา

กินข้าวยัง หรือไป ไหนมาบ้าง
สารพัดอย่าง สรรหา มาไต่ถาม

ไร้สาระ พูดคุย ไม่นับความ
หลงตาม ชัยฏอน ทุกวันวาน





หนุ่มถาม สาวตอบ มิเชือนช้า
ไม่สน นาฬิกา ที่วนผ่าน

ลืมหน้าที่ ลืมเวลา ลืมวันวาน
ลืมกรุอาน ทางนำ สอนอย่างไร

ลืมไปว่า หนุ่มสาว ต้องขับเคลื่อน
ลืมฟังคำ ตักเตือน ใจมืดไหม้

ลืมนึก ว่าตัวเอง นั้นเป็นใคร
มีหน้าที่ อย่างไร ต่ออิสลาม
ลืมแล้วว่า วันนี้ ทำสิ่งใด
ต้องนำไป ตอบคำถาม ในวันหน้า

ลืมว่าขาด ทุนกับ กาลเวลา
เพราะดวงตา และหัวใจ เมินทางนำ

เพราะหลงสิ่ง ผู้ปฏิเสธ หยิบยื่นให้
หลงคิดไป ว่าอินเทรนด์ นำแฟชั่น

หลงว่าที่ คนหมู่มาก กระทำกัน
คือสิ่งนั้น ไม่อนุมัติ ในอิสลาม
read more...

เมื่อวงจรเดิมๆวนเวียนมาถึง‏

เมื่อวงจรเดิมๆวนเวียนมาถึง ...
... ในวันที่หนัก ...

DSC04046

ในวันที่หนา ...

CIMG1843

ในวันที่ลายตา

DSC04000CIMG1856DSC04048DSC04036CIMG1854CIMG1855

มองไปทางไหนก็ลายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยไปหมด
...
....
.....
ที่พักเหนื่อยสำหรับบางคน
อาจจะเป็น ...
..
.
CIMG1844

มุมสงบๆนิ่งๆซักที

CIMG1861DSC04052

ที่พักเหนื่อยสำหรับนักพูด

CIMG1853DSC04006DSC04068

ที่พักเหนื่อยสำหรับนักดู

CIMG1814DSC04039
CIMG1862CIMG1860

ที่พักเหนื่อยสำหรักนักกิน ...
...
..
.
แต่
...
..
.
ยังมีอีกที่หนึ่งที่เราลืมนึกไป
...
..
.
เป็นมุมเล็ก

DSC04065

เป็นที่ที่วางหน้าผากลงไป

y1pczlZmuQxOwxmXOLP6TKuw-EzWRpN57v7suJgf-91GSiNAo4abJXSpKqEhW5XFNp0oahueJTRVWo

ที่นั้นก็ไม่ใช่แค่ที่พักเหนื่อยธรรมดาๆ

แต่
ยัง
เป็นที่
เพิ่มพลัง
อีกด้วยน่ะ


**.. ที่พักเหนื่อยและยามที่เราท้อที่สุดที่นี้จะเป็นที่ที่ทำให้รู้สึกต่ำต้อย และเล็กที่สุดภายใต้ความยิ่งใหญ่ของพระองค์  รู้สึกอบอุ่น..เพราะอัลลอฮทรงเมตตา..ทรงปรานี..ทุกๆอย่าง.. **
read more...

รักแท้คู่ศรัทธา‏

"อัสลามูอาลัยกุม" 
ฉันกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ด้วยเสียงที่หมดแรงเต็มที่
"วาอาลัยกุมมุสลามวาเราะฮมาตุลลอฮ" 
เสียงเขาตอบออกมาอย่างแผ่วเบาไม่แพ้กัน
"ไม่สบายอีกแล้วหรอ"
 อีกแล้ว…เสียงที่แสดงความห่วงใยอีกแล้ว… ช่างห่วงใยจริง ๆ เลยผู้ชายคนนี้
"อืม"  ฉันตอบออกไปสั้น ๆ
"กินข้าวแล้วยัง"
ประโยคเดิมๆ ที่เขาถามทุกวันและเป็นประโยคเดิมๆ ที่เมื่อก่อนมักทำให้ฉันแอบยิ้มเสมอ
"อืม" 
เป็นอีกครั้งที่พูดแค่นี้… แต่ฉันแอบยิ้มคนเดียว  เขาสงสัยแน่เลย ทำไมฉันพูดน้อย
"วันนี้…บังลงพื้นที่มา…เจอเด็ก ๆเยอะเลย   เหนื่อยจัง"
เขาเริ่มพูดในสิ่งที่ฉันมักกระตือรือร้นเสมอ  ฉันชอบฟังในเรื่องที่เขาเล่า
"อืม" 
คำเดิม  แต่ความรู้สึกของฉันไม่เหมือนเดิม…หวั่นไหวมากขึ้น
……………………………………………………………………………………..
"ไม่สบายอีกแล้วหรอ โดนแดดอีกละซี บอกแล้วว่าให้ระวัง ไม่ไหวเลยนะ ดูแลคนอื่นดีนักเชียว…แต่ไม่รู้จักดูแลตัวเอง แล้วข้าวนี้ยังไม่กินใช่ไหม   ไม่ไหวเลยนะ…แบบนี้"
เมื่อไรจะหยุดพูดซักทีนะ   ฉัน…กำลังจะแพ้…อีกแล้ว....
"แค่นี้ก่อนแล้วกัน คลื่นไส้"  
ฉันรีบพูดออกไป เพราะอาการผะอืดผะอมที่เป็นตั้งแต่เมื่อเช้าเริ่มกลับมาอีกครั้ง…และมันจะเป็นแบบนี้เสมอ เมื่อฉัน…เครียด
"อย่าว่างสายนะ บังเป็นห่วง"
ฉันได้ยินเสียงเขาตะโกนออกมา ก่อนที่ฉันจะอาเจียนจนหมดแรง และทุกอย่างกลายเป็นสีดำไปหมดในความรู้สึกฉัน
"เป็นไงบ้าง! รู้ไหม  ตอนที่เธอเป็นลมไป  บังเขาโทรตามพวกฉัน  ตามยาม  แล้วก็ตามเธอมาที่โรงพยาบาลนี่แหละ"
เพื่อนฉันรีบบอก ทันทีที่ฉันลืมตาขึ้น หลังจากที่ฉันฟื้นขึ้นมา
ฉันเหลือบไปมองหน้าเขา เห็นความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาห่วงฉันมากจริงๆ มากซะจนลืมคิดถึง…อะไรบางอย่าง…

"เธอนะโชคดีรู้ไหม  ที่บังเขาคอยเป็นห่วง  ทั้งๆ ที่บังเขาไม่เคยใส่ใจใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะ  พวกกะที่อยู่เอกเดียวกับบังเขาบอกว่า  บังเขาแทบจะไม่คุยกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย  เธอนะโชคดีนะ  ที่ทำให้เจ้าชายน้ำแข็งหัวใจละลายได้  ใคร ๆ ก็อิจฉากันทั้งนั้น" 
เพื่อนของฉันแย่งกันพูด  หลังจากที่เขาขอตัวไปละหมาด  จนฉันหันซ้ายหันขวาตามแทบไม่ทัน  นอกจากยิ้ม…และยิ้ม !
"โชคดี" คำนั้นหลุดจากริมฝีปากของฉัน
ฉันหมดแรง หมดแรงทั้งกายและใจ ไม่ใช่เพราะอะไร แต่มันเกิดจากการที่ฉันรู้สึกผิด รู้สึกผิดต่ออัลลอฮ  ที่นับวันฉันเข้าใกล้คำว่าซินามากขึ้นทุกทีทุกที
   ฉันหมดแรง  เพราะหลายเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่ได้รู้จักกับผู้ชายคนนั้น…ฉันใช้เวลาหลัง มักริบไปกับการคุยโทรศัพท์ ไปกับการแอบอมยิ้มเมื่อรู้ว่า…เขาเป็นห่วง   กับการหัวเราะกับเรื่องที่เขาเอามาเล่า
   ………………………………………………………………………………………..
   ความรู้สึกของฉันไม่เหมือนเดิมเพราะฉันไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นแค่คนรู้จัก อีกต่อไป  ฉันรู้สึกกับเขามากกว่านั้น  พี่ชายหรอ  เพื่อนสนิท คนรัก หรือ…อะไร   ฉันก็ไม่สามารถตอบได้
ฉัน รู้แต่ว่าฉันเป็นห่วง ฉันแคร์ และรู้สึกดีเมื่อรับรู้ว่าเขาก็คิดไม่ต่างจากฉัน แต่…เมื่อฉันนั่งทบทวนดูแล้ว ฉันไม่พบคำว่าพี่ชายกับผู้ชายต่างสายเลือดตามหลักการอิสลาม
   ฉันไม่พบคำว่า  คนรักตามหลักการของอิสลาม  นอกจากคนที่แต่งงานกันแล้ว  และฉันก็ไม่เคยรับรู้  ว่าคำว่าเพื่อนสนิทระหว่างชายกับหญิงจะมีตัวอย่างมันให้เห็นในสมัยนบี
   ฉันกับเขาเป็นอะไรกัน…เขาถึงได้ห่วงใยฉันขนาดนี้ ฉันไม่สามารถตอบคำถามตัวเองได้ พอ ๆ กับที่ฉันไม่สามารถตอบกับอัลลอฮได้เช่นกัน
……………………………………………………………………….
…………………………………………………………….
   ฉันรับรู้แค่เพียงว่า สำหรับชายหญิงที่ไม่ใช่พี่น้องและไม่ได้แต่งงานแล้ว…การเข้าใกล้เกินขอบเขต…นั้นคือซินา
"ขอบ คุณสำหรับความห่วงใย…แต่จะดีกว่านี้หากเราเดินตามแนวทางของอัลลอฮ ไม่มีคำว่าเพื่อนสนิท คนรัก หรือพี่ชายสำหรับเราสองคน เพราะอิสลามไม่อนุมัติ เชื่อว่าบังคงเดินตามแนวทางที่ถูกต้อง มาอัฟด้วยที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นภาระกับบังตลอด และมาอัฟมากๆ เลย ที่เป็นคนดึงให้บังตกต่ำลงจากที่ๆ บังเคยอยู่"
"แท้จริงแล้วชายที่ดี  ย่อมคู่ควรกับหญิงที่ดี  คิดว่าบังน่าจะหาคนอื่นที่เหมาะสมมากกว่าผู้หญิงที่อ่อนแอทั้งกายและอีหม่าน คนนี้  อัสลามูอาลัยกุม"
-------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------

   หลังจากจบประโยคนั้น เธอก็ว่างสายไป จากการคุยกับเธอทำให้ผมได้รู้ว่า เธอรู้สึกผิดมากที่ทำให้ผู้ชายที่ไม่เคยโทรหาผู้หญิงอย่างผม ต้องโทรหาเธอทุกคืน เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเริ่มต้นที่ทำให้ผมทำในสิ่งที่ไม่ดี ที่ตัวเองไม่เคยทำ เธอทำให้ผมละอาย
   เมื่อก่อน…เธอคุยกับผู้คนไม่เลือก และไม่ปฏิเสธที่จะคุยกับผม
   เมื่อก่อน…เธอไม่อ่านอัลกรุอานทุกวัน
   เมื่อก่อน…เธอใส่หิญาบผืนสั้นนิดเดียว
   เมื่อก่อน…เธอทั้งพูดและหัวเราะเสียงดัง

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
 = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
   ตั้งแต่รู้จักกัน…ผมโทรหาเธอทุกคืน
   ตั้งแต่รู้จักกัน…ผมไม่มีเวลาอ่านอัลกรุอาน
   ตั้งแต่รู้จักกัน…ผมทำอะม้าลน้อยลง
   ตั้งแต่รู้จักกัน…ผมไม่เคยเบื่อเลยที่จะคุยกับเธอ
   แต่…ผมมักจะหยิบยื่นหนังสือที่เกียวกับอิสลามให้เธอเสมอ เพราะเธอบอกว่า เธอรู้น้อยเพราะเรียนสามัญมา
   แต่…หนังสือพวกนั้น…ทำให้เธอห่างไกลจากผมทุกที ๆ 
เธอเปลี่ยนไป  ในขณะที่ผมเหมือนเดิม
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
 = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
เธอ…มักจะไม่รับโทรศัพท์ผมหลังมักริบ  เพราะอ้างว่าอ่านอัลกรุอาน
เธอ…ไม่คุยกับผมหลังอีซา เพราะเธอจะไปทำฮาลาเกาะ
เธอ…ไม่คุยกับผมตอนเช้า เพราะบอกว่าอ่านอัซกัร
เธอ…พูดกับผมน้อยลง  เพราะบอกว่า…ไม่มีอะไร!  จะพูด !
ผมเสียเธอไป…เพราะหนังสือ…ที่ผมเป็นคนหยิบยื่นให้ การที่คนเราไม่ใช่เนื้อคู่กันนั้นเป็นเพราะความดีของเราไม่มากพอกับความดี ของเขา หรือเป็นเพราะความดีของเขาไม่มากพอกับความดีของเรา แท้จริงแล้ว…ชายที่ดี…ย่อมคู่ควรกับหญิงที่ดี
   เธอบอกให้ผมเลิกโทรหาเธอ  พร้อมกับฝากข้อความนี้มากับเพื่อนของเธอ
   = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
 = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

"แล้วพ่อไปติดต่อแม่ยังไงค่ะ" เด็กสาววัย 18 ถามขึ้น
"พ่อก็ให้ปู่กับย่า ไปคุยกับตากับยาย หลังจากที่พ่อเรียนจบโท" 
ผมตอบ  พร้อมกับหันไปยิ้มกับเธอที่นั่งเย็บผ้าฟังผมเล่าเรื่องของเราให้ลูกฟัง
"แล้วแม่รู้ได้ไงครับว่าความดีของพ่อกับแม่คู่ควรกัน" 
ลูกชายซึ่งกลับมาจากมอ.ปัตตานีถามขึ้น
"ก็ ดูพฤติกรรมของพ่อเขาซี พ่อเขาก็เหมือนเดิม หลังจากที่คุยกับแม่ครั้งหลังสุด กลับไปอ่านอัลกรุอาน ละหมาดสุนัต และอยู่กับอัลลอฮมากขึ้น จากคำบอกเล่าของน้าชายเราไง"
"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ชายที่ดี ย่อมคู่ควรกับหญิงที่ดี จริงๆ ด้วยค่ะ และลูกก็ดีใจที่ทั้งสองคนเป็นพ่อกับแม่ของหนู"
 เด็กสาววัยรุ่นสรุปด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตามด้วยเสียงหัวเราะของทุกคนในครอบครัว

   ใช่…ชายที่ดี…ย่อมคู่กับหญิงที่ดี…

--
-----------------------
เว็บบอร์ดชมรมมุสลิมสบพ.
http://www.muslimcatc.ob.tc
read more...

ข้อชี้แจงเกี่ยวกับจดหมายลูกโซ่จากผู้ดูแลมัสยิดอันนะบาวีย์‏

ข้อชี้แจงเกี่ยวกับจดหมายลูกโซ่จากผู้ดูแลมัสยิดอันนะบาวีย์

คำถาม ฉันอยากได้คำชี้แจงเกี่ยวกับข้อความที่มีการส่งต่อผ่านโทรศัพท์มือถือซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

หมายเหตุ ในกรอบด้านล่างนี้เป็นเนื้อหาจดหมายลูกโซ่ที่ระบาดในภาษาไทย ซึ่งมีเนื้อหาเดียวกันกับที่มีการตั้งคำถามในเว็บอิสลามทูเดย์ แต่สำนวนอาจจะแตกต่างบ้างเล็กน้อย - บรรณาธิการ
จดหมายจากด่วนประเทศอาหรับซาอุดิอาราเบีย

เรื่อง      คำสั่งเสียแก่อุมมัตอิสลามทั่วโลก
อัสลามุอาลัยกุม
นี้คือคำสั่งเสียจากคนเฝ้าสุสานของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล) ท่านแซะฮ์อะหมัดแห่งซาอุดิอารเบีย(จดหมายนี้เดิมเป็นภาษาต่างประเทศและได้แปลเป็นภาษาไทย) ในคืนหนึ่งในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอ่านอัลกรุอ่านที่มากอม (สุสาน ของท่านนบีมูฮัมหมัด ซ.ล) หลังจากอ่านเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าก็เผลอหลับไป ในขณะที่ข้าพเจ้าหลับ ข้าพเจ้าได้ฝันว่าท่านนบีมูฮัมหมัด(ซ.ล)ได้มาหาข้าพเจ้าแล้วกล่าวแก่ ข้าพเจ้าว่า ในแปดหมื่นคนที่ได้เสียชีวิตไปในสมัยนี้ไม่มีเลยคนที่เสียชีวิตที่มี   อีหม่าน
1. ภรรยาไม่ยอมฟังคำพูดสามี
2. คนรวยไม่สนใจต่อคนจน
3. ผู้คนไม่ยอมจ่ายซะกาตและไม่ยอมทำความดี
ด้วยเหตุดังกล่าว โอ้แซะฮ์อะหมัดเจ้าสมควรเตือนสติต่อคนอิสลามนี้เพื่อที่จะกระทำความดี เพราะว่าวันสิ้นโลก (กียามัต ) จะมาถึงแล้ว ซึ่งในวันนั้นเจ้าจะเห็นดวงดาวท้องฟ้าอย่างชัดเจนหลังจากนั้นดวงอาทิตย์จะลงมาอยู่ใกล้ศีรษะ

คำสั่งเสียของข้าพเจ้า
1. จงซอลาวัตแด่ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล)
2. จงขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ โดยทันทีทันใดในขณะที่ประตู เตาบัตยังเปิดอยู่
3. จงละหมาดเถิด ก่อนที่ท่านจะถูกละหมาด มะยัต ” (ศพ)
4. จงจ่ายซะกาต อย่าทิ้งการจ่ายซะกาต
5. จงทำฟัรดูฮัจยี ยามเมื่อเจ้ามีความสามารถ
6. จงอย่าทรยศต่อพ่อแม่ทั้งสอง
สิ่งที่ควรรู้ มีมุสลิมชาวบอมเบย์คนหนึ่ง หลังจากได้รับจดหมายได้ทำเพิ่มขึ้นอีก 20 ฉบับและได้แจกจ่ายให้กับคนอื่น หลังจากนั้นเขาได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ โดยได้รับผลกำไรอันใหญ่หลวงในการค้าขายของเขา
มีบ่าวของอัลลอฮ์อีกคนได้รับจดหมายนี้แล้วทำเป็นไม่สนใจและคิดว่าคำสั่งเสียนี้หลอกลวงปรากฏว่าไม่นานลูกเขาถึงแก่ความตาย
ท่าน เสรีค่อซาหลี ยาไวย์ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีใหญ่แห่งเปรักโดยทางอ้อมท่านโดนไล่ออกจากตำแหน่งเพราะ เมื่อท่านได้รับคำสั่งเสียฉบับนี้ท่านได้ลืมทำเพิ่มเพื่อแจกจ่ายแก่คนอื่น แต่ท่านไม่รู้ตัวถึงความผิดพลาดนี้ต่อมาท่านได้ทำจดหมายฉบับนี้เพิ่มขึ้น ใหม่และได้ส่งต่อไปยังคนอื่น หลังจากนั้นไม่กี่วันท่านก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีปี ค.ศ. 1997 หรือ พ.ศ 2540
ที่ ตรังกานูก็เช่นกันมีบ่าวของอัลลอฮ์คนหนึ่งเขาได้รับจดหมายฉบับนี้จากคนที่ เขาไม่รู้จักแล้วเขาก็ไม่สนใจต่อมัน เขากล่าวว่าจดหมายโกหกทั้งนั้น มีเจตนาให้คนอ่านกลัว แล้วหลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ได้รับโรคที่แปลกประหลาดแสนสาหัส หลังจากได้รับรักษาที่โรงพยาบาล 3 สัปดาห์ โรคของเขาก็ยากที่จะเยียวยา โดยสุดท้ายก็นึกถึงจดหมายคำสั่งเสียที่เขายังเก็บไว้ แล้วเขาสั่งให้พิมพ์เพิ่มขึ้น 20 ฉบับ และได้แจกจ่ายให้กับคนอื่นภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ แล้วโรคที่เป็นอยู่ก็เริ่มหายเป็นปกติจนถึงปัจจุบัน   ยัง มีตัวอย่างอีกมากมายที่ได้รับจดหมายนี้แล้วไม่เชื่อต่อคำสั่งเสียและไม่ส่ง ต่อให้กับคนอื่นหรือไม่บอกแก่คนอื่นซึ้งพวกเขาเหล่านั้นได้รับภัยพิบัติหลัง จากเหตุการณ์แห่งน่ายินดีนี้ทำให้ท่านมั่นใจ อย่าลืมทำจดหมายนี้เพิ่มขึ้น 20 ฉบับ และส่งให้กับคนอื่นในเวลา 96 ช.ม หลังจากท่านได้รับแล้ว อินชาอัลลอฮ์ ท่านจะได้รับอะไรบางอย่างจากอัลลอฮ์ผู้ทรงมีความสามารถยิ่งด้วยความศรัทธา แน่นอนจะชี้นำทางชีวิตของท่านด้วยเมตตาแห่งความสุขในชีวิตอินชาอัลลอฮ์

คำเตือน หลังจากได้อ่านคำสั่งเสียนี้แล้วสมควรเขียนขึ้นหรือพิมพ์ขึ้นแล้วส่งให้กับคนอื่นจำนวน 20 ฉบับ หากท่านได้ปฏิบัติท่านจะได้รับความดีบางอย่าง หรือธุระของท่านได้รับความสำเร็จ โดยอนุญาตของอัลลอฮ์ ท่านแซะฮ์อะห์มัดได้กล่าวอีกว่า หากอันไหนที่ ข้าพเจ้ากล่าวนี้ไม่เป็นความจริง ขอให้ข้าพเจ้าตายในกุฟูร และไม่ได้รับความคุ้มครองช่วยเหลือจากท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล) (นาอุซุบิลละฮ์) ดังนั้นท่านสมควรเขียนหรือพิมพ์และส่งให้กับคนอื่น อินชาอัลลอฮ์ ภายใน 2 สัปดาห์ท่านจะได้รับความสุข และจงจำไว้ว่า จงทำด้วยใจบริสุทธิ์ และอย่าทำเล่น ๆ หรือปล่อยปละละเลยไม่สนใจคำสั่งเสียนี้

ขอรับรองว่าเป็นความจริงทุกประการ
วัสลาม

ขอให้ท่านช่วยให้คำตอบเกี่ยวกับจดหมายนี้ด้วย

คำตอบ
จดหมาย ฉบับนี้ถูกเขียนในรูปแบบการสั่งเสียและเผยแพร่แก่ผู้คนทั่วไป ซึ่งปรากฏขึ้นเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว เนื้อหาในจดหมายอาจมีความแตกต่างไปบ้างเนื่องจากเป็นจดหมายลูกโซ่ถูกส่งต่อๆ กัน ซึ่งผู้รับก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าต้นตอของจดหมายฉบับนั้นมีมาจากไหน เข้า ใจว่าจดหมายนี้อาจจะมาจากพวกศูฟีย์ ที่ยึดถือความฝันเป็นหลักฐานในการอ้างอิง โดยไม่คำนึงว่าความฝันนั้นอาจจะขัดแย้งกับตัวบทอัลกุรอานและอัซซุนนะฮฺหรือ ไม่ ในบางครั้งพวกเขายึดมั่นในความฝันมากกว่ายึดมั่นในตัวบทอัลกุรอานและอัซซุน นะฮฺด้วยซ้ำ
ส่วน จุดยืนของอะฮฺลุซซุนนะฮฺเกี่ยวกับความฝันนั้น คือ หากความฝันนั้นไม่ใช่ความฝันของนบีหรือเราะซูล ต้องพิจารณาดูก่อนว่ามันสอดคล้องหรือขัดแย้งกับหลักศาสนาหรือไม่ หากพบว่ามันไม่มีข้อขัดแย้งได้ก็สามารถที่จะนำมาใช้ได้ แต่ถ้าหากความฝันนั้นไปขัดแย้งกับตัวบทอัลกุรอานและอัซซุนนะฮฺความฝันนั้น ถือว่าเป็นโมฆะ จะนำมาอ้างเป็นหลักฐานมิได้ เนื่องจากในความฝันไม่มีใครรับรองได้ว่ามันถูกต้องเสมอไป ที่สำคัญความฝันอาจจะเป็นสิ่งตักเตือนจิตใจในกรณีที่มันสอดคล้องกับหลัก ศาสนาแต่หากมันขัดแย้งกับหลักศาสนาความฝันนั้นก็ใช้ไม่ได้เช่นกัน
จดหมาย ฉบับนี้เมื่อผู้รับเปิดอ่านแล้วบางคนอาจเกิดความหวาดกลัวหากไม่ปฏิบัติตามใน สิ่งที่จดหมายได้สั่งให้ทำแล้วจะเกิดความหายนะต่อตนเองและครอบครัว
จดหมาย ลักษณะเช่นนี้มิได้เพิ่งปรากฏมาใหม่แต่มันแพร่หลายเป็นเวลานานแล้ว บุคคลที่ระบุในจดหมายก็มิได้มีตัวตนที่แท้จริง ทุกอย่างเป็นการปรุงแต่งขึ้นมา ผู้ที่มีความศรัทธาที่มั่นคงจะไม่หลงเชื่อในเรื่องเหล่านี้ พวกเขาจะไม่ทำการเผยแพร่จดหมายลูกโซ่ที่ไร้ที่มาเช่นนี้ต่อ และพวกเขาก็มิได้หวั่นเกรงภยันตรายดังที่ระบุในจดหมาย เพราะมันมิได้เกิดขึ้นจริง เว้นแต่พระประสงค์ของอัลลอฮฺ ส่วนเรื่องภาคผลหรือผลตอบแทนสำหรับผู้ที่นำจดหมายนี้ไปเผยแพร่ต่อนั้นไม่มี หลักฐานใดมายืนยันว่าการกระทำดังกล่าวจะได้รับผลตอบแทนที่ดีงามจริง ขนาดพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานเองก็มิได้มีหลักฐานว่าหากนำไปพิมพ์เผยแพร่แจก จ่ายจะได้ผลบุญอย่างนั้นอย่างนี้
ชัยคฺ อับดุลอาซิซ บิน อับดุลลอฮฺ บิน บาซ อดีตมุฟตีย์ แห่งซาอุดีอาระเบีย ได้กล่าวในหนังสือรวบคำฟัตวาของท่านว่า ใน จดหมายที่เป็นคำสั่งเสียนี้มีเรื่องโกหกมดเท็จอยู่ ถึงแม้ว่าผู้ที่นำมาเผยแพร่จะสาบานต่ออัลลอฮฺเป็นพันครั้งว่ามันเป็นความ จริงก็ตาม หรือแม้ว่าเขาจะขอดุอาอ์ให้ประสบกับความหายนะ ถ้าหากเขาพูดโกหกก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ไม่เป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ เรื่องที่กล่าวในจดหมายฉบับนั้นข้าพเจ้าขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่ามันไม่เป็นความ จริงแต่อย่างใด ข้าพเจ้าขอให้อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน มวลมลาอิกะฮฺ และบรรดามุสลิม ช่วยเป็นพยานด้วยว่า คำสั่งเสียนี้เป็นการโกหกกล่าวเท็จต่อท่านนบีมุหัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ขอให้พระองค์ทรงลงโทษผู้ที่กุเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา"


สิ่งบ่งชี้ว่าจดหมายฉบับนี้เป็นเรื่องโกหก

1.      ชัยคฺอะหมัด ที่ระบุในจดหมายว่าท่านเป็นผู้ถือกุญแจมัสยิดนบี เป็นบุคคลที่ไม่มีใครรู้จัก ดังนั้นจดหมายนี้ไม่ทราบว่ามีแหล่งที่มาจากแห่งใด

2.      เนื้อหา ในจดหมายที่กล่าวถึงความเสื่อมโทรมทางจริยธรรมในสังคมนั้น หนทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวที่ถูกต้องนั้น ประชาชาติมุสลิมต้องหันกลับไปยึดมั่นกับอัลกุรอานและอัซซุนนะฮฺอย่างมั่นคง คำสอนที่บรรจุในสองสิ่งนี้เป็นคำสอนที่สุดประเสริฐ ครอบคลุมทุกแง่มุม มีทั้งสัญญาที่ดีสำหรับผู้ศรัทธาและสัญญาไม่ดีสำหรับผู้เนรคุณ มีทั้งสิ่งที่ทำให้จิตใจหวั่นเกรง ฯลฯ ทั้งหมดนั้นเป็นการเพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องนำความฝันที่อุปโลกน์มาตักเตือน อีก
3.      เนื้อหา ในจดหมายนี้ที่กล่าวถึงสัญญาณวันกิยามะฮฺนั้นเป็นเรื่องพ้นญาณวิสัย (อิลมุ้ลฆ็อยบฺ) ไม่อนุญาตให้ผู้ใดกล่าวอ้างขึ้นมาโดยปราศจากหลักฐาน ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
قُلْ لَا يَعْلَمُ مَنْ فِي السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ الْغَيْبَ إِلَّا اللَّهُ وَمَا يَشْعُرُونَ أَيَّانَ يُبْعَثُونَ (النمل :65)
ความว่า จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ไม่มีผู้ใดในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินจะรู้ในสิ่งพ้นญาณวิสัย นอกจากอัลลอฮฺ และพวกเขาจะไม่รู้ว่า เมื่อใดพวกเขาจะถูกให้ฟื้นคืนชีพ สูเราะฮฺ อันนัมลฺ อายะฮฺที่ 65
ส่วน การประทานวะหฺยูก็ได้สิ้นสุดลงหลังจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เสียชีวิต ดังนั้นคำสอนเกี่ยวกับเรื่องสัญญาณวันกิยามะฮฺที่มีในอัลกุรอ่านและอัซซุนนะ ฮฺถือว่าเพียงพอและครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

4.      เนื้อหา ในจดหมายนี้มีความแตกต่างกัน บางฉบับเขียนว่าเป็นการฝัน บางฉบับเขียนว่าเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้านอนในขณะที่รู้สึกตัว บางฉบับเขียนว่าจากผู้ดูแลมัสยิดอันนะบาวีย์ บางที่ก็เขียนว่าผู้ดูแลสุสานของท่านนบี บางฉบับก็เขียนว่าจากผู้ถือกุญแจมัสยิดอัลหะรอม ตลอดจนมีความขัดแย้งในการกำหนดผลตอบแทนสำหรับผู้นำจดหมายไปเผยแพร่ต่อยังผู้ อื่น สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ชัดถึงความมดเท็จในจดหมายฉบับนี้

วัลลอฮุอะอฺลัม (อัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงรอบรู้ดี)
ขอความจำเริญและความสันติจงประสบแด่ท่านนบีมุหัมหมัดของเรา


เขียนโดย ดร.สุลัยมาน บิน มุหัมหมัด อัดดุบัยคีย์ อาจารย์วิทยาลัยครูแห่งหาอิล
ถอดความโดย อันวา สะอุ (เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2008)
ที่มา  http://www.islamtoday.net/questions/show_question_content.cfm?id=119017
read more...

โทษของผู้ที่ทิ้งละหมาด‏

โทษของผู้ที่ทิ้งละหมาด

ใครก็ตามที่ละทิ้งละหมายโดยเจตนา เขาจะถูกสาปแช่ง ในคัมภีร์เตารอต อิลญีล อัล กุรอาน และเซาบูร อัลเลาะห็จะกริ้วเขา 1000 ครั้ง และจะถูกสาปแช่ง 1000 ครั้ง ในทุกๆคืน เขาจะไม่มีส่วนใดๆเลยจากความเมตตาของอัลเลาะห์ เขาจะอยู่พร้อมกับมุนาฟิกในชั้นที่ต่ำสุดของนรก เขาจะได้รับการลงโทษ 26 เท่า เขาจะปรากฏตัวในวันกิยามะ ด้วยสภาพ ที่มือทั้งสองของเขาถูกพันกับคอของเขา มาลาอิกะห์จะทุบตีเขา ในนรกญาฮันนัม เขาจะเข้าสู่ประตูนรกดังลูกธนู
เมื่อใดก็ตามที่ผู้ทิ้งละหมาดยกอาหารคำนึงเข้าปาก อาหารคำนั้นจะสาปแช่งโอ้ศัตรูของอัลเลาะห์ เจ้ากินริสกีของอัลเลาะห์ แต่เจ้าไม่ปฏิบัติฟัรดูของอัลเลาะห์ใครก็ตามที่ละทิ้งละหมาด เขาจะถูกลงโทษ 15 อย่างด้วยกัน

6
ประการในดุนยา 3 ประการขณะตาย 3 ประการในกุโบร 3ประการออกจากกุโบร

6
ประการในดุนยา
1.
อัลเลาะห์จะถอดความสิริมงคลออกจากอายุไข
2.
อัลเลาะห์จะไม่ให้ใบหน้าของเขามีรัศมี
3.
อัลเลาะห์จะไม่ให้ผลบุญกับเขาในการกระทำความดีของเขาเลย
4.
อัลเลาห์จะไม่ให้เกียรติและจะไม่รับดุอาของเขา
5.
บรรดาสรรพสิ่งทั้งหลายบนโลกดุนยา จะร่วมกันสาปแช่ง และโกรธเขา
6.
เขาจะไม่ได้รับดุอาใดๆเลยจากบุคคลที่เป็นคนดี


3
ประการ ในขณะตาย
1.
เขาจะตายในสภาพที่ทุเรศ อุบาถ
2.
เขาจะตายในสภาพที่หิวโหย
3.
เขาจะตายในสภาพที่กระหายน้ำ ถึงแม้ว่าจะให้ดื่มน้ำทั้งหมดในโลกดุนยาก็ยังคงกระหายอยู่


3
ประการในกุโบร
1.
เขาจะโดนหลุม บีบรัด จนกระทั่งกระดูกซี่โครงทั้งสองข้างประสานกัน
2.
ไฟจะลุกบนตัวของเขาทั้งกลางวันและกลางคืน
3
จะมีคำสั่งจากอัลเลาะห์ให้มีงูที่ชื่อ อัซซุญา อักรอ ตาของมันเหมือนกับไฟ เล็บของมันแข็งเเรงอย่างเหล็ก ความยาวของเล็บเท่ากับ ระยะเดินทาง 100 วัน และมันจะกล่าวกับเขาผู้นั้นว่า ข้าคือ อัซซุญา อักรอเสียงของมันดุจฟ้าผ่าอย่างแรง พระเจ้า ได้ใช้ข้าให้มาทุบตีเจ้า
เพราะว่าเจ้าทิ้งละหมาดมันจะทุบตี เขาเพราะเขาทิ้งละหมาดซุบฮิ ไปจนดุหริ
และมันจะตีจากดุหริ ไปอัสริ และจากอัสริไป มัฆริบ จากมัฆริบไปอีซา และจากอีซา
ไปซุบฮิ และทุกครั้งที่มันตี มนุษย์จะจมลงไปลึกถึง 70 ศอก และมันจะใช้เล็บของมันแงะขึ้นมา เขาจะถูกตีอย่างนี้ จนถึงวันกิยามะห์


3
ประการในวันกิยามะห์
1.
เขาจะโดนลากไปสู่นรกญาฮันนัม โดยคว่ำหน้าลงกับพื้น
2.
อัลเลาะห์จะมองเขาด้วยสายตาที่โกรธในเวลาที่พิพากษา ใบหน้าของเขาจะหลุดร่วงลงมา
3.
อัลเลาะห์จะสอบสวนเขาอย่างเข้มงวดในเวลาที่ยาวนานและจะสั่งให้เขาลงสู่นรก
และคนใดที่ทิ้งละหมาดโดยเจตนา เพียงเวลาเดียว ชื่อของเขาจะไปอยู่ที่ประตูนรก และเขาต้องเข้าสู่นรกสถานเดียว
read more...

เมื่อวันหนึ่ง

เมื่อวันหนึ่ง

 วันแห่งการฟื้นคืนชีพมาถึง
 เราคงรู้สึกอยากแก้ไขอะไรหลายๆอย่างในชีวิตที่ผ่านมา
 เรื่องราวในอดีตที่เราคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกสนาน
 แต่มันกลับขมขื่นยิ่ง ณ วันนั้น
 วันที่เราเดินควงแขนกับต่างเพศทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน วันนั้นที่เรามีความสุขเหลือเกิน ใจสองเราอยู่ใกล้ชิดกัน
 วันที่เราละเลยไม่ใส่ใจกับเวลาของการละหมาด
 จนเวลาล่วงเลยผ่านมา เราก็ยังทำเป็นเฉยชา
 วันที่หูของเราเคล้าแต่เสียงเพลง
 มากกว่าที่มันจะฟังเสียงกุรอ่าน
 วันที่ปากของเรากัดกินเนื้อพี่น้องที่ตายไปแล้ว มากกว่าที่จะเปล่งคำพูดเพื่อตักเตือนกัน
 วันที่สองมือของเราถูกขยับเพื่อใช้แช็ทกับเพื่อนข้ามคืนอย่างไร้สาระ มากกว่าที่มันจะถูกหยิบจับเพื่อการบริจาค
 วันที่นิ้วของเราถูกใช้เพื่อกดเบอร์โทรศัพท์หาใครบางคน มากกว่าที่มันจะขยับลูกตัสเบี๊ยะ
 วันที่น้ำตาของเราถูกหลั่งเพื่อดูบทพระเอกพร่ำกับนางเอกก่อนตายมากกว่าที่มันจะถูกหลั่งเพื่อการเกรงกลัวอัลลอฮฺ
 วันที่สองเท้าของเราย่ำเข้าไปในโรงหนังทุกอาทิตย์ มากกว่าที่มันจะถูกย่ำไปมัสยิดทุกเวลา
 วันนี้ของเรา ยังไม่ถึงวันนั้น
วันที่ท่านจะไม่พูดอะไร นอกจากเท้าของท่าน มือของท่าน จะเป็นผู้ตอบเอง
ท่านยังมีเวลาที่จะกลับตัว เตาบัต
 แก้ไขในวันข้างหน้าให้อยู่บนเส้นทางที่เที่ยงธรรม
อย่าหลอกตัวเอง ว่าอีกนาน กว่าความตายจะมาถึง อย่าหลับตา โดยที่ไม่นึกถึงเลยว่า พรุ่งนี้ท่านอาจจะไม่ตื่น
 
อย่าทำเป็นรู้ดี ว่าตอนนี้ฉันทำบุญมากมายเพียงพอแล้ว
 อย่าปิดหู หากมีคนมาบอกท่านว่า เพื่อนของท่านนั้นถึงแก่อะญั้ลแล้ว
 อย่าเดินผ่านกุโบร์ โดยที่ท่านไม่เหลียวมองมันเลยว่า
 วันหนึ่งฉันก็ต้องอยู่ในนั้น
 วันแห่งการฟื้นคืนชีพ ใกล้มาถึงแล้ว
 โลกใบกลมเบี้ยวๆใบนี้ แก่มากแล้ว เหนื่อยมากแล้ว
 อีกไม่นานก็ต้องดับสูญ
 แต่มนุษย์ยังคงต้องตื่นอีกครา
 เพื่อเรียกมาสอบสวนและให้ผลตอบแทนในสิ่งที่กระทำไว้บนดุนยา
 เป็นวันซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือใครได้เลย......


'และจงเกรงกลัววันหนึ่ง ซึ่งในวันนั้นไม่มีใครสามารถที่จะช่วยใครได้แต่อย่างใด
และการไถ่โทษแทนจากใครก็จะไม่เป็นที่ยอมรับ
การขอไถ่แทนก็จะไม่เป็นประโยชน์แก่ใคร
และผู้ที่ทำผิดทั้งหลายจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ
'


อัลบากอเราะฮฺ : 123

ข้อความนี้มาจากมีคนส่งเมลมาให้ มีความเห็นว่ามีความสำคัญต่อพี่น้องมุสลิมทุกคน
จึงนำมาเผยแพร่เพื่อเตือนสติตัวเองและพี่น้องร่วมศรัทธา
read more...

การใช้คำที่หมายถึง มัสยิด-มักกะห์-มูฮัมหมัด

As Received...
من الآن....
เดี๋ยวนี้เลย....



จงใช้คำ Masjid แทนคำ Mosque
ในทุกข้อความหรือบทความที่คุณเขียน

เพื่อนๆที่รักทุกคน ...ขอได้โปรดสังเกตความหมายเหล่านี้ครับ

หนึ่ง มัสยิด ในภาษาอังกฤษเรียกว่า MOSQUE
ซึ่งแปลว่า บ้านของยุง หรือ รังยุง
ฉะนั้นจำเป็นต้องใช้คำ Masjid แทน

สอง มักกะฮฺ จะเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า MECCA
ซึ่งมันแปลว่า บ้านหรือห้องสุรา
ฉะนั้นเราจำเป็นต้องใช้ คำ MAKKAH แทน


สาม ถ้าเราจะเขียนชื่อท่านนบี จงอย่าใช้แบบสั้นๆ โดยเขียนว่า Mohdเพราะมันจะหมายถึง หมาที่มีปากกว้าง
ฉะนั้น จำเป็นต้องเขียนให้เต็ม คือ MUHAMMAD
(ขอ ความสันติ ความสูงส่ง จงมีแด่ท่าน )
read more...

ชายหนุ่ม เช้ามา โทรหาสาว‏

ชายหนุ่ม เช้ามา โทรหาสาว

                    พร้อมบอกเล่า หนึ่งวัน ที่ผ่านพ้น
                    เจอคนนั้น เจอคนนี้ เฝ้าเวียนวน
                    บ้างพูดคุย ผ่านเอ็ม นั่งหน้าคอม

คุยเฮฮา สนุกสนาน สนิทสนม
ตามอารมณ์ มีชัยฏอน อยู่รายล้อม
หลงโลก หลงมายา อันจอมปลอม
จมจ่อม กับไซเบอร์ ตามนัฟซู


หญิงสาว สีหิญาบ สะดุดตา
ตกแต่งผ้า แพรวพราว ดูสวยหรู
พันขึ้นสูง เห็นเอารัต ไม่น่าดู
เพชรติดอยู่ สีเงิน ดูลานตา


เสื้อรัดรูป ขอดเอว โชว์ร่างสวย
ตามติดด้วย กางเกง รัดนักหนา
รองเท้าหนีบ ไร้ถุงเท้า ปิดบาทา
ตามติดมา ด้วยกระเป๋า สีแสบทรวง


เดินมั่นใจ บอกเพื่อน ฉันแอ๊บแบ๊ว
มองดูแล้ว เจ็บอุรา น่าเป็นห่วง
คนหนุ่มสาว หลงโลก ชัยฏอนลวง
ใจทั้งดวง ลืมกรุอาน ทางนำเรา


โลกไปซ้าย เธอตามติด มิรอช้า
โลกต่ำมา เธอต่ำตาม ด้วยความเขลา
โลกสกปรก เธอย่ำตาม เพราะมัวเมา
โลกร้อนเร่า เธอร้อนรน วิ่งวุ่นตาม


เพื่อนแอ๊บ เราแอ๊บ มิยอมแพ้
ลืมแก่นแท้ อิสลาม มิเกรงขาม
ลืมอัลลอฮ หลงดุนยา อันต่ำทราม
หลงเดินตาม ชัยฏอน ที่ชักนำ


ลองคิดดู เยาวชน คนหนุ่มสาว
กี่ครั้งคราว ที่ชัยฏอน มากรายกล้ำ
กี่อินเทรนด์ ที่สร้างมา เพื่อชักนำ
อย่าลืมว่า มีผลกรรม วันตอบแทน


กี่วันกัน ที่คุณคิด เพื่อศาสนา
กี่เวลา ที่นึกถึง ความแร้นแค้น
กี่หนแห่ง ที่มุสลิม ถูกดูแคลน
มีบ้างไหม ที่เจ็บแค้น ปวดหัวใจ


ตื่นเถิด เยาวชน คนหนุ่มสาว
มีเรื่องราว อีกมากมาย ให้แก้ไข
อิสลาม เกือบสิ้นแล้ว ไม่เหลือใคร
คงสูญไป หากคุณไม่ ยอมเปิดตา


Source : Fwd mail
read more...

4 wife‏

ชายคนหนึ่งมีภรรยาอยู่ 4 คน

ภรรยาคนที่ 1 เขารักที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตามใจ ตลอดอยากได้อะไร เขาหาให้ ทุกอย่าง
ภรรยาคน ที่ 2 เขารักมาก เขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อภรรยาคนนี้ และจะไปหา ภรรยาคนนี้เสมอ
ภรรยาคนที่ 3 เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอควร แวะไปหาบางเป็นครั้ง คราว
ภรรยาคน ที่ 4 เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยไป หาไม่คิดถึงเลย ด้วยซ้ำ

ต่อมาชาย คนนี้ไปกระทำความผิดร้ายแรงและถูกจับ
ต้องถูก ประหารชีวิต ก่อนที่จะถูกประหาร เขาขอร้อง ว่า
เขาขอกลับบ้านเพื่อไปร่ำลาภรรยาสุดที่รักซักครั้ง
ผู้คุมเห็นใจจึง อนุญาต

เมื่อกลับ มาถึงบ้าน เขารีบตรงไปหาภรรยาคนที่ 1
เล่า เหตุการณ์ต่างๆ ให้ ฟังและถามภรรยา คนที่ 1 ว่า "
ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 1 จะ ทำอย่างไร? "
ภรรยาคนที่ 1 ตอบน้ำเสียงที่เย็นชาว่า " ถ้าเธอตาย เราก็จบ กัน"
คำตอบที่ได้รับ เหมือนสายฟ้าที่ผ่า เปรี้ยง!! ลงมาที่เขาอย่าง จัง
เขารู้สึกเจ็บปวดและเสียใจเป็นอย่าง ยิ่งนึกเสียดาย ว่าเขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้ เลย

จากนั้นเขาก็ ไปหาภรรยาคนที่ 2 ด้วยอาการเศร้าโศก
เล่า เรื่องราวต่างๆ ให้ ฟังและถามคำถาม
เดิมกับภรรยาคนที่ 2 ว่า" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 2 จะทำอย่างไร?
ภรรยาคนที่ 2 ก็ ตอบอย่างหน้าตาเฉยว่า " ถ้าเธอตาย ฉันจะมี ใหม่ "
เหมือนสาย ฟ้า!! ผ่าลงมาซ้ำที่เขาอย่างจัง เขารู้สึกเสียใจ มาก และนึก
เสียดายว่าที่ผ่านมาเขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เช่นกัน
เขาเดินคอตก

มาหาภรรยาคนที่ 3 เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง
และถามภรรยา คนที่ 3 ว่า" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 3
จะทำ อย่างไร? "ภรรยา คนที่ 3 ตอบว่า " ถ้าเธอตาย ฉันจะไป ส่ง "
ทำให้เขา คลายความเศร้าโศกขึ้นมาได้ บ้าง
อย่างน้อยก็ ยังมีภรรยาที่จริงใจกับ เขา

ก่อนกลับไป รับโทษ เขานึกขึ้นมาได้ว่ามีภรรยาอีกคนซึ่งไม่
เคยไปหาเลยจึงไป หาภรรยาคนที่ 4
และถามว่า" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 4 จะทำอย่าง ไร? "
ภรรยาคน ที่ 4 ตอบว่า "ถ้าเธอตาย ฉันจะตามไป ด้วย "
แทนที่เขา จะดีใจกลับนึกเสียใจหนักขึ้นไปอีก
เพราะ...มัน สายเกินไปเสียแล้ว ช่วงที่เขา
มีชีวิตอยู่ เขาไม่เคยเห็นค่าของภรรยาคน นี้
แต่ภรรยาคนนี้ไม่คิดที่จะทิ้งเขา จะติดตามเขาไปอยู่ ด้วย
แล้วชายคนนี้ก็กลับไปรับโทษประหาร และเมื่อเขาตาย
ภรรยาคน ที่ 4 ก็ตายตามไปด้วย.....

เราทุกคนก็มีภรรยา 4 คน นี้
มีคำถามว่า ภรรยาทั้ง 4 คนเป็นใคร ? ลองคิดกันก่อน นะ
แล้วค่อยดูเฉลย
....................................................................................

ทีนี้เรามาดูกัน ว่า ภรรยาคนที่ 1, 2, 3 และ 4 เป็นใครกันบ้าง

ภรรยาคน ที่ 1 = ร่างกายของเรา
เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ เราจะบำรุงบำเรอด้วยของสิ่ง ทุกอย่าง
อยากได้อะไรก็หาให้แต่ พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา เมื่อเราตาย
ร่างกายมันก็มีค่าเท่ากับท่อนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้น

ภรรยาคนที่ 2 = ทรัพย์สมบัติ
เพราะเวลา เรามีชีวิตอยู่
เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มัน มา แต่พอเราตาย
มันกลับไม่ไปกับเราแต่ไปเป็นของคน อื่น

ภรรยาคนที่ 3 = พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติ พี่ น้อง
เพราะพอเรา ตาย เขาจะทำศพให้เรา ทำบุญไป ให้ แปลว่า
เขา แค่ไปส่งเราเท่านั้น


ภรรยาคนที่ 4 = บุญกับ บาป
เมื่อเราตาย ไป เราไม่สามารถเอาอะไรไปด้วย ได้
มีเพียงแค่บุญกับบาปเท่านั้นที่จะตามเราไป


.....หลังจากอ่านจบแล้วได้แง่คิดอะไรกันบ้าง ?
.... จะให้ความสำคัญกับภรรยาคนไหนมากกว่ากัน?

From : Fwd Mail
read more...