This is Islam

Latest Posts

8/05/2559

ความสำคัญของศาสนา



"...ในอดีตมีคนเชื่อว่า วันนี้ฐานะเขาดีเเน่นอนว่าหากชีวิตหลังความตายมีจริงฐานะของเขาก็ย่อมจะดีเหมือนที่อยู่บนโลกใบนี้..

.. เเต่อิสลามมาสอนเสียใหม่ว่า มันคนละเรื่องกัน โลกหน้าเขาไม่ได้ใช้เงินตราซื้อขายกัน มันไร้ค่ามาก  ฐานะดีเป็นเรื่องของริสกีที่พระองค์จะทรงประทานให้ใครก็ได้ เเม้ว่าจะไม่มีความศรัทธาในดวงจิต..

... คุณสมบัติของพระเจ้าน่ะ ไม่เหมือนมนุษย์หรอก ที่เลือกจะมอบให้เเต่คนที่รู้จักมักคุ้นเท่านั้น ชีวิตหลังความตายเขาวัดกันที่อีหม่าน จากนั้นก็ความอดทนที่จะไม่ทำความชั่วเเละอดทนในการทำตามสิ่งที่อัลลอฮฺใช้ จากนั้นก็วัดกันที่การขอบคุณในความเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ หากท่านทำได้ดังเช่นนี้ในวันอาคีรัต ท่านจะเป็นผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง..."

-สรุปจากการสอนตัฟซีรนูรุ้ลเอียะฮฺซาน ซูเราะฮฺอัรเราะอฺดุ โดยบาบอ อิสมาแอล สปันญังอัลฟาฏอนี-
read more...

8/01/2559

สลบคาไม้เรียว



เมื่อวานนี้ (1/7/16) ณ ด้านหน้ามัสยิดอัลฟุรกอน บันดาอาเจะห์ (จ.อาเจะห์) ได้มีการลงโทษผู้กระทำผิดตามกฏหมายซารีอะห์ของจังหวัดนี้ เป็นจำนวนถึง 11 คน เป็นผู้ชาย 8 คน และหญิงอีก 3 คน  โดยผู้ถูกลงโทษเป็นคนนอกพื้นที่ แต่ไปกระทำความผิดในจังหวัดนี้

มี 3 คู่ถูกตัดสินว่าผิดในข้อหาอิคตีลาซ (การสัมพันธ์ใกล้ชิดชายหญิง ทั้งการถูกตัว กอดหรือจูบ ทั้งในที่สาธารณะ หรือในที่ลับตาคน) ส่วนที่เหลือถูกตัดสินว่าผิด ตามข้อกล่าวหามัยซีร (การพนัน)

แต่ละคนมีโทษหนักเบาที่ต่างกัน น้อยสุดถูกโบย 6 ครั้ง และที่มากสุดถึง 20 ครั้ง

มีอยู่คนหนึ่งสลบหลังจากการโบยเสร็จสิ้นลง และถูกหามเข้ามัสยิดเพื่อรักษาอาการ

การโบยเกิดขึ้นต่อหน้าสาธารณะ  มีเสียงโห่ร้อง จากคนที่มุงดูในแต่ละครั้งที่มีการโบย

การลงโทษเช่นนี้ แม้จะทำไปในที่สาธารณะ และห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในสถานที่ลงโทษ แต่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเด็กๆ ในชุดนักเรียนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

แหล่งข้อมูล :  detik.com
read more...


อัสสาลามูอาลัยกูม...
วันนี้จะมาแจกวีริดและดุออในยามเช้าและเย็น
เป็นไฟล์ .Pdf เพื่อความสะดวกในการอ่านบนมือถือ
ใครที่สนใจสามารถเข้ามาโหลดได้
วีริดตัวนี้เรียบเรียงโดย อ.อารีฟิน แสงวิมาน
เพื่อเป็นการขอบคุณให้กับท่านอาจารย์ ขอให้ทุกคนขออภัยโทษให้กับอาจารย์ และกระผมด้วย
ญาซากัลลอฮูคอยร์....

กดที่นี้เพื่อดาวโหลด
read more...

7/31/2559

ออร์โดฆอน...ผู้นำที่ไม่ยอมก้มหัวให้ยิว...!!!



มีผู้นำชาติอาหรับคนไหนบ้างที่กล้าชี้หน้าต่อว่าผู้นำยิว เพื่อปกป้องชาวปาเลสไตน์....ดั่งเช่นท่าน รอยั๊บ ฏอยยิบ อัรดูฆอนประธานาธิบดีตุรกี

วันที่ 30 มกราคม 2009 ในการประชุมเวิล์ด อีโคโนมิค ฟอรัม ที่กรุงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ประธานาธิบดีตุรกีอัรดูฆอน ถูกให้ขึ้นเวทีพร้อมกับประธานาธิบดีอิสราเอล ชีมอน เปเรส นายเปเรสได้ใช้เวลาอย่างยาวนานในการอธิบายเหตุผลที่เขาต้องทำสงครามกับฆ๊อซซะ(กาซ่า) และประเทศฟาลิสฏีน(ปาเลสไตน์) อัรดูฆอนนั่งฟังอย่างนิ่งเงียบ สีหน้าจับจ้องมองคนทางซ้ายมือของเขาอย่างขึงขัง และเขาทำให้ทั่วโลกต้องตกตะลึงเมื่อเขาขออภิปรายตอบกลับเปเรส อัรดูฆอน พูดขึ้นว่า …

…คุณเปเรส คุณน่ะแก่กว่าผม เสียงของคุณก็ดังมาก ที่คุณพูดเสียงดังก็คงเกิดจากความรู้สึกผิดที่ติดสันดานการเป็นอาชญากรสังหารมนุษย์ของคุณนั่นเอง เสียงของผมไม่อาจดังเช่นนี้ได้

เรื่องการฆาตกรรมน่ะ คุณรู้ดี และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องฆ่า คุณก็รู้วิธีพวกนี้ดี

คุณฆ่าประชาชน(ชาวปาเลสไตน์) ผมยังจำภาพเด็กที่นอนตายอยู่บนชาดหาดได้

และผมยังจำได้ว่า อดีตผู้นำอิสราเอล 2 คนของคุณ ได้พูดสิ่งสำคัญบางอย่างให้ผมรู้

คุณมีนายกรัฐมนตรีผู้ที่บอกว่า เมื่อเราได้รุกเข้าไปในฟาลีสฏีนด้วยรถถัง เขารู้สึกมีความสุขยิ่งนักนอกจากนี้ ข้าพเจ้าขอประณามทุกคนที่ปรบมือเชียร์การเข่นฆ่าและก่ออาชญากรรมต่อชาวฆ๊อซซะ(กาซ่า) ที่พวกคุณพากันปรบมือสนับสนุนการเข่นฆ่าลูกเล็กเด็กแดงนั้น สำแดงให้ประจักษ์ว่าพวกคุณคือพวกที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน…

ครั้งที่เปเรสพูด มีคนสังเกตเห็นภรรยาของอัรดูฆอนร้องไห้ โดยผู้สื่อข่าวไปถามเธอหลังจากนั้น เธอกล่าวว่า ทุกอย่างที่ชายคนนั้น(เปเรส)พูด เขาโกหกทั้งนั้น และขณะที่อัรดูฆอนพูดอยู่นั้น ผู้ดำเนินรายการก็ได้พยายามขัดเขา(โดยไม่ให้เขาพูดเกินกว่า 1 นาที ขณะที่เปเรสพูดนานกว่า 25 นาที) แต่เขาก็ไม่ยอม และพูดทิ้งท้ายประโยคหนึ่งก่อนที่จะหยิบสมุดโน๊ตและประท้วงด้วยการลุกและลงเวทีประชุมไปว่า… Israel… became a gangster state!!

อัรดูฆอน ถูกสั่งจับตายจากตำรวจลับของอิสราเอล(หน่วยมอสสาด) แต่ไม่สำเร็จ อิสราเอลมองว่า นายกรัฐมนตรีนิยมอิสลามผู้นี้ไม่เหมือนผู้นำโลกมุสลิมคนอื่นๆ ที่ว่านอนสอนง่าย หรือที่มีอุดมการณ์หน่อย ก็เป็นชาตินิยมหรือคลั่งไคล้เชื้อชาติไป ซึ่งไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรต่อพวกยิว
เครดิต: ไลน์ดาบแห่งอัลเลาะห์ แอนตีไซออนิสต์
ไอดี basssil
read more...

9/16/2553

เพียงเพราะว่า "เราคือมุสลิมหรือ"?‏











read more...

ฉันถือศีลอดในเดือนรอมฎอนแต่ฉันไม่ได้ละหมาด การถือศีลอดของฉันนั้นจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่?

การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ไม่เป็นที่ยอมรับ หากผู้ถือศีลอดละทิ้งการละหมาด
 Ramadaan fasting is not acceptable if one does not pray
แหล่งที่มา http://www.islamqa.com/en/ref/37820/  Islam Q&A

คำถาม: ฉันถือศีลอดในเดือนรอมฎอนแต่ฉันไม่ได้ละหมาด  การถือศีลอดของฉันนั้นจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่?
คำตอบ: การสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺ
การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และการกระทำความดีงามอื่นๆ นั้น จะไม่ได้รับการยอมรับ หากท่านละทิ้งการละหมาด  นั่นเป็นเพราะว่า การละทิ้งละหมาด ถือเป็น กุฟรฺ (การปฏิเสธอัลลอฮฺ ปฏิเสธความโปรดปรานของอัลลอฮฺและสาส์นของพระองค์ (คืออิสลาม))  ดังที่ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะศัลลัม กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างบุรุษคนหนึ่ง และชิริก และกุฟรฺ คือการละทิ้งละหมาด รายงานโดยมุสลิม 82

ไม่มีซึ่ง การกระทำที่ดีงามใด จะได้รับการตอบรับจากบรรดากาเฟรฺ ด้วยเพราะอัลลอฮฺตรัสว่า  (อันมีความหมายว่า) เราจะนำ การกระทำต่างๆ ที่พวกเขากระทำ (ผู้ปฏิเสธ ผู้นับถือพระเจ้าหลายองค์ และผู้กระทำชั่ว) กลับคืนสู่พวกเขา และเราจะทำให้การงานเหล่านั้นไร้คุณค่าดังเช่นผงธุลีที่ปลิวว่อน (อัล ฟุรกอน 25:23)

หากพวกเจ้าทำการสักการะสิ่งอื่นใด ร่วมกับอัลลอฮฺ แน่นอนการงาน (ทั้งหลาย) ของเจ้าย่อมสูญเปล่า และแน่นอนเจ้าจะอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน (อัซซุมัร 39:65)

อัลบุคอรียฺ รายงานว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะศัลลัม กล่าวว่า
ผู้ใดก็ตามที่ละทิ้งการละหมาดอัศรี การงานทั้งหลายของเขาย่อมสูญเปล่า  (อัลบุคอรียฺ 553)

ความหมายของถ้อยคำที่ว่า การงานทั้งหลายของเขาย่อมสูญเปล่า หมายความว่า การงาน การกระทำความดีงามทั้งหลายของเขากลายเป็นโมฆะ ใช้ไม่ได้ และมันจะไม่ก่อผลประโยชน์ใดๆ แก่เขา

จากฮะดีษบทนี้บ่งบอกว่า ในกรณีที่บุคคลหนึ่งไม่ทำการละหมาด อัลลอฮฺจะมิทรงตอบรับการงานใดๆ จากเขา ดังนั้นผู้ที่ละทิ้งการละหมาดย่อมไม่ได้รับผลบุญ หรือการตอบแทนใดๆ จากการงานทั้งหลายของเขา และไม่มีการงานที่ดีใดๆ ของเขาจะไป ณ ที่อัลลอฮฺ

ท่านอิบนุล ก็อยยิม (รอฮิมาฮุลลอฮฺ) กล่าวไว้เกี่ยวกับความหมายของฮะดีษบทนี้ไว้ว่า สิ่งที่ปรากฎในความหมายของฮะดีษบทนี้คือ บรรดาผู้ที่ละทิ้งการละหมาดนั้นมีอยู่สองประเภท
หนึ่ง        บรรดาผู้ที่ไม่ทำการละหมาดเลย ซึ่งทำให้การงานทั้งหมดทั้งมวลของเขานั้นเป็นโมฆะ (ใช้ไม่ได้)
สอง         บรรดาผู้ที่ไม่ทำการละหมาดบางวัน ซึ่งทำให้การงานของเขาในวันนั้นเป็นโมฆะ (ใช้ไม่ได้)

ดังนั้น การสูญเสียของการงานที่ดีทั้งหมด จะประสบต่อบรรดาผู้ที่ไม่ทำการละหมาดเลย และ การสูญเสียของการงานบางอย่าง จะประสบต่อบรรดาผู้ที่ละทิ้งการละหมาดบางช่วงเวลา (จากกิตาบ อัล ศอลาฮฺ หน้า 65)

ดังนั้นคำแนะนำของเราต่อผู้ที่ถามคำถามนี้คือ การกลับเนื้อกลับตัวต่ออัลลอฮฺ และรู้สึกเสียใจต่อการละเลยในหน้าที่ที่ควรกระทำต่ออัลลอฮฺ สำหรับการนำมาซึ่งความโกรธกริ้ว และการลงโทษของพระองค์ และอัลลอฮฺทรงตอบรับการกลับเนื้อกลับตัวของบรรดาบ่าวที่สำนึกผิดต่อพระองค์ และพระองคจะทรงอภัยโทษต่อความผิดบาปของเขา แท้จริงแล้ว อัลลอฮฺทรงปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งต่อการสำนึกในความผิดของปวงบ่าว ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะศัลลัม ได้แจ้งข่าวดีต่อบรรดาผู้กลับเนื้อกลับตัวว่า บรรดาผู้ที่กลับเนื้อกลับตัวจากความผิดบาปนั้น เปรียบเสมือนกับผู้ที่มิได้ทำความผิดบาปใดๆ เลย รายงานโดย อิบนุ มาญะฮฺ 4250 ถูกจัดว่าเป็นฮะดีษฮะซัน โดยอัล อัลบานียฺ ในศอเฮี้ยฮฺ อิบนุ มาญะฮฺ 3424

ดังนั้นเธอจำต้องเร่งรีบที่จะทำการฆุซลฺ (อาบน้ำตามศาสนบัญญัติ) และละหมาด เพื่อที่เธอจะได้มีความบริสุทธิ์ทั้งภายในและภายนอก เธอไม่ควรที่จะล่าช้าในการสำนึกผิดและกล่าวว่า ฉันจะกลับเนื้อกลับตัววันพรุ่งนี้ หรือหลังจากวันพรุ่งนี้ เพราะเธอไม่มีทางที่จะทราบได้ว่า ความตาย จะมาประสบกับเธอเมื่อไหร่ เธอควรจะทำการสำนึกผิดต่ออัลลอฮฺ ก่อนที่ความเสียใจของเธอจะไม่มีก่อผลประโยชน์ใดๆ แก่เธอ

และวันที่ผู้อธรรมจะกัดมือของเขาแล้วจะกล่าวว่า โอ้! หากฉันได้ยึดแนวทางร่วมกับอัลร่อซูลก็จะเป็นการดี”  “โอ้ความวิบัติแก่ฉัน! หากฉันไม่คบคนนั้นเป็นเพื่อน แน่นอน เขาได้ทำให้ฉันหลงผิดจากการตักเตือน (อัลกุรอาน) หลังจากที่มันได้มันมายังฉัน และชัยฏอนมารร้ายนั้น มันเป็นผู้เหยียดหยามมนุษย์เสมอ (อัลฟุรกอน 27-29)
Islam QA
**คัดลอกคำแปลอัลกุรอานมาจาก alquran-thai.com และมีการปรับถ้อยคำเล็กน้อย
read more...

Wake up Muslims! ตื่นเถิหนุ่มสาว

อัสสลามมูอาลัยกุม
วันนี้ คิดถึง รู้บ้างไหม
ทำอะไร ทำไม ไม่ติดต่อ
ตื่นตอนไหน ไม่โทรบอก คนเฝ้ารอ
จ้องแต่จอ โทรศัพท์ นับเวลา
กินข้าวยัง หรือไป ไหนมาบ้าง
สารพัดอย่าง สรรหา มาไต่ถาม
ไร้สาระ พูดคุย ไม่นับความ
หลงตาม ชัยฏอน ทุกวันวาน
หนุ่มถาม สาวตอบ มิเชือนช้า
ไม่สน นาฬิกา ที่วนผ่าน
ลืมหน้าที่ ลืมเวลา ลืมวันวาน
ลืมกรุอาน ทางนำ สอนอย่างไร
ลืมไปว่า หนุ่มสาว ต้องขับเคลื่อน
ลืมฟังคำ ตักเตือน ใจมืดไหม้
ลืมนึก ว่าตัวเอง นั้นเป็นใคร
มีหน้าที่ อย่างไร ต่ออิสลาม
ลืมแล้วว่า วันนี้ ทำสิ่งใด
ต้องนำไป ตอบคำถาม ในวันหน้า
ลืมว่าขาด ทุนกับ กาลเวลา
เพราะดวงตา และหัวใจ เมินทางนำ
เพราะหลงสิ่ง ผู้ปฏิเสธ หยิบยื่นให้
หลงคิดไป ว่าอินเทรนด์ นำแฟชั่น
หลงว่าที่ คนหมู่มาก กระทำกัน
คือสิ่งนั้น ไม่อนุมัติ ในอิสลาม
เอาอย่างอื่น มาชี้ถูก กับศาสนา
เพียงเพราะว่า ตอบเอง มิไต่ถาม
แค่คุยเอ็ม มิเห็นหน้า แค่ข้อความ
แค่ไต่ถาม ผ่านมือถือ แค่นั้นเอง
แค่ซ้อนท้าย เพราะต้องไป ทางเดียวกัน
ประหยัดน้ำ มันตามรัฐ แนะนำไว้
แค่ไปส่ง เพราะผู้หญิง มิปลอดภัย
แค่ติวให้ เพราะเราเรียน รู้ร่วมกัน
คงลืมไป ว่าแค่นั้น ที่บอกไว้
คือ เข้าใกล้ ซินา ผิดมหันต์
คงลืมว่า อิสลาม คือ ป้องกัน
มิใช่การ แก้ไข เมื่อสายเกิน
ทบทวน ทบทวน ตัวเองใหม่
แล้วตั้งใจ หยุดมันเถิด หนุ่มสาวเอ๋ย
อย่าหลงตาม ชัยฏอน ชี้นำเลย
อย่านิ่งเฉย กับการทำ ตามนัฟซู
การอภัย พระผู้สร้าง ให้เสมอ
แค่เพียงเธอ บอกพระองค์ ผู้ทรงรู้
แล้วหยุดสิ่ง ที่เคยทำ ตามนัฟซู
เร่งเชิดชู ทางนำ ของอิสลาม
อย่าลืมว่า พวกเธอ คือความหวัง
คือพลัง อันยิ่งใหญ่ ของศาสนา
คือต้นกล้า ที่เข้มแข็ง แห่งศรัทธา
คือหน้าตา ของ อัล- อิสลาม

จากเมล์
read more...