الحمد للّه والصلاة والسلام على رسول اللّه وعلى آله وصحبه ومن والاه ، أما بعد
สำหรับกระทู้นี้เราจะนำเสนอฟัตวาของอุละมาอฺระดับแนวหน้าของโลก มุสลิมหลายๆท่าน เกี่ยวกับการถือศีลอด และบทบัญญัติอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเดือนรอมฎอนอันประเสริฐที่กำลังจะมาเยือน โดยในขั้นแรกจะนำเสนอเรื่อยๆโดยไม่จำแนกหมวดหมู่ของคำถาม แต่อินชาอัลลอฮฺ ในอนาคตอันใกล้นี้เราจะทำการรวบรวมฟัตวาเหล่านี้ และจัดแยกเป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการค้นหาและอ้างอิง..
อนึ่ง เพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหา และความเป็นระเบียบในการนำเสนอ กระทู้นี้จึงกำหนดให้เป็นส่วนของการนำเสนอเท่านั้น ส่วนท่านใดที่มีคำถาม หรือข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับปัญหาการถือศีลอด หรือเกี่ยวกับฟัตวาที่ได้นำเสนอไป สามารถโพสต์ได้ที่กระทู้ "ถาม-ตอบ ปัญหาการถือศีลอด" ครับ.
อนึ่ง เพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหา และความเป็นระเบียบในการนำเสนอ กระทู้นี้จึงกำหนดให้เป็นส่วนของการนำเสนอเท่านั้น ส่วนท่านใดที่มีคำถาม หรือข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับปัญหาการถือศีลอด หรือเกี่ยวกับฟัตวาที่ได้นำเสนอไป สามารถโพสต์ได้ที่กระทู้ "ถาม-ตอบ ปัญหาการถือศีลอด" ครับ.
(1) - จะทราบได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่เดือนรอมฎอน?
ถาม : เราจะทราบได้อย่างไรว่าเข้าสู่เดือนรอมฎอน?
ตอบ : ด้วย 2 วิธี คือ
1- การมองเห็นเดือน ดังที่อัลลอฮฺตะอาลาทรงตรัสไว้ว่า
(فَمَن شَهِدَ مِنكُمُ الشَّهْرَ فَلْيَصُمْهُ)
“ดังนั้น ผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้ว ก็จงถือศีลอดในเดือนนั้น” อัลบะเกาะเราะฮฺ : 185
ดังนั้น เมื่อมีการยืนยันจากผู้ที่เชื่อถือได้ ก็จำเป็นต้องปฏิบัติตาม
2- เดือนชะอฺบานครบ 30 วัน
(ฟัตวาเชค ศอลิหฺ อัลมุนัจญิด)
(2) - นอนเยอะในช่วงกลางวันของเดือนรอมฎอน
ถาม : ในเดือนรอมฎอนนั้น หากว่าหลังจากที่เราทานอาหารสุหูรฺและละหมาดฟัจญรฺเสร็จ เรานอนยาวถึงเวลาละหมาดซุฮรฺ เมื่อละหมาดซุฮรฺเสร็จก็นอนต่อจนถึงอัศรฺก็ตื่นละหมาดแล้วนอนต่อถึงมักริบ กระทำเช่นนี้การถือศีลอดของเราถือว่าใช้ได้ไหม?
ตอบ : การถือศีลอดในกรณีนี้ถือว่าใช้ได้ แต่การที่คนเรานอนตลอดทั้งวันนั้นถือเป็นความบกพร่องประการหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ซึ่งเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่มุสลิมจะกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนเองให้ มากๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านอัลกุรอาน หรือ การศึกษาหาความรู้ เป็นต้น
(ฟัต วาคณะกรรมการถาวรเพื่อการวิจัยทางวิชาการและชี้ขาดปัญหาศาสนา ซาอุฯ เล่ม 1 หน้า 129)
(3) - การทานอาหารสุหูรฺเป็นผลดีต่อการถือศีลอด
ถาม : คนที่ไม่ทานสุหูรฺนั้น การถือศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้ไหม?
ตอบ : การถือศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้ เพราะการทานสุหูรฺนั้นไม่ใช่เงื่อนไขในการทำให้การถือศีลอดนั้นใช้ได้ แต่เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้กระทำ (มุสตะหับ) เนื่องจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า :
( تَسَحَّرُوا فإنّ في السحُور بَركةً )
ความว่า “ พวกท่านจงทานสุหูรฺเถิด แท้จริงแล้วการทานสุหูรฺนั้นนำมาซึ่งบะเราะกะฮฺ (ความจำเริญ) ”
บันทึก โดย บุคอรี และมุสลิม
(ฟัตวาเชคอับดุลอะซีซ บิน บาซ จากหนังสือรวมฟัตวาของท่าน)
(4) - กลืนน้ำลายขณะถือศีลอด
ถาม : อยากทราบหุก่มการกลืนน้ำลายในขณะถือศีลอด
ตอบ : เป็นสิ่งที่กระทำได้ ฉันไม่พบว่ามีอุละมาอฺท่านใดเห็นต่างไปจากนี้ เนื่องจากเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงการกลืนน้ำลาย
ส่วนเสมหะและเสลดนั้น หากออกมาถึงช่องปากแล้วจำเป็นต้องคายออกมา และไม่อนุญาตให้กลืนเข้าไป เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต่างจากน้ำลาย วะบิลลาฮิตเตาฟีก
(ฟัต วาเชค บินบาซ ในหนังสือรวมฟัตวาของท่าน เล่ม 3 หน้า 251)
(5) - การใช้ไม้สิวากขณะถือศีลอด
ถาม : มีบางคนพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ไม้สิวากขณะถือศีลอด เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เสียการถือศีลอด ไม่ทราบว่าเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่? และเวลาใดที่เหมาะสำหรับการใช้สิวากในเดือนรอมฎอน?
ตอบ : การหลีกเลี่ยงการใช้สิวากในขณะถือศีลอด นั้นเป็นการกระทำที่ไม่มีหลักฐาน เนื่องจากการใช้สิวากนั้นถือเป็นสุนนะฮฺดังที่ปรากฎในหะดีษเศาะหีหฺ
(السواك مطهرة للفم ومرضاة للرب)
ความว่า “การใช้สิวากนั้น เป็นการทำให้เกิดความสะอาดในช่องปาก และทำให้เกิดความพอพระทัย ณ พระผู้เป็นเจ้า”
ซึ่งส่งเสริมให้กระทำทุกเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทำการอาบน้ำละหมาด,เมื่อจะทำการละหมาด,ตื่นจากนอน หรือเข้าบ้าน เป็นต้น ไม่ว่าจะขณะถือศีลอดหรือไม่ก็ตาม และไม่เป็นการทำให้การถือศีลอดเสียแต่อย่างใด นอกเสียจากว่าไม้สิวากนั้นจะมีรสชาติและทิ้งร่องรอยในน้ำลาย หรือใช้แล้วเกิดมีเลือดไหลออกจากเหงือกหรือไรฟัน เช่นนี้แล้วก็ไม่อนุญาตให้กลืนกินสิ่งเหล่านั้น
(ฟัตวาเชค อิบนฺ อุษัยมีน ในฟิกฮุลอิบาดาต)
(6) - การกินหรือดื่มโดยไม่ได้ตั้งใจ
ถาม : อะไรคือหุก่มของการกินหรือดื่มขณะถือศีลอดด้วยความลืมตัว?
ตอบ : ผู้ที่กินหรือดื่มขณะถือศีลอดโดยที่เขา ไม่ได้เจตนานั้น การถือศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้ แต่ทันทีที่เขานึกขึ้นได้จำเป็นต้องคายออกมาทันทีแม้ว่าจะเป็นเพียงอาหารแค่ คำเดียว ซึ่งหลักฐานที่ระบุว่าการถือศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้นั้น ได้แก่หะดีษซึ่งรายงานโดยท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
(من نسي وهو صائم فأكل أو شرب فليتم صومه فإنما أطعمه الله وسقاه)
ความว่า : “ผู้ใดเผลอกินหรือดื่มในขณะถือศีลอด ก็ให้เขาถือศีลอดต่อไปแท้จริงแล้วอัลลอฮฺได้ทรงประทานอาหารและเครื่องดื่ม แก่เขา” บันทึกโดย บุคอรี และมุสลิม
(ฟัตวาเชค อิบนฺ อุษัยมีน ในฟิกฮุลอิบาดาต)
(7) - การใช้ยาห้ามประจำเดือนในเดือนรอมฎอน
ถาม : อนุญาตให้ใช้ยาห้ามประจำเดือนเพื่อให้สามารถถือศีลอดได้ทั้งเดือนหรือไม่?
ตอบ : สามารถกระทำได้ เนื่องจากเป็นการดีที่มุสลิมะฮฺจะได้ถือศีลอดพร้อมๆกับคนอื่นและไม่ต้องถือ ศีลอดชดภายหลัง ทั้งนี้ในกรณีที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อตัวเธอ เนื่องจากสตรีบางคนเมื่อใช้ยาชนิดนี้แล้วจะทำให้เกิดอาการแพ้
(ฟัตวา เชคบินบาซ ในหนังสือรวมฟัตวาของท่าน เล่ม 15 หน้า 201)
(8 ) - การชิมอาหารขณะถือศีลอด
ถาม : การชิมรสชาติอาหารขณะถือศีลอดทำให้การถือศีลอดเสียหรือไม่?
ตอบ : อนุญาตให้ใช้ลิ้นทำการชิมรสชาติอาหารขณะถือศีลอดได้ แต่ชิมเสร็จแล้วต้องคายออกมาและไม่กลืนกินอาหารนั้นเข้าไป หากผู้ใดเจตนากลืนอาหารเข้าไปถือว่าการถือศีลอดของเขานั้นเสีย ทั้งนี้ ปากนั้นถือเป็นอวัยวะภายนอก การชิมอาหารจึงไม่ทำให้การถือศีลอดเสีย เปรียบได้กับการบ้วนปากในการอาบน้ำละหมาด
(ฟัตวาเชคศอลิหฺ อัลเฟาซาน จาก www.islamway.com)
(9) – การอาเจียน
ถาม : การอาเจียนทำให้เสียการถือศีลอดหรือไม่?
ตอบ : หากว่าเจตนาทำให้อาเจียนก็ถือว่าเสีย แต่ถ้าหากอาเจียนออกมาเองโดยไม่เจตนา เช่นนี้ก็ไม่เสีย ซึ่งหลักฐานที่ระบุถึงประเด็นนี้ได้แก่หะดีษอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า :
"من ذرعه القيء فلا قضاء عليه، ومن استقاء عمداً فليقض"
ความว่า "ผู้ใดที่อาเจียนออกมาโดยไม่ได้เจตนานั้นไม่มีการชดสำหรับเขา และผู้ใดที่เจตนาทำให้อาเจียน เขาก็จงชดเสีย" บันทึกโดย อบู ดาวุด และตัรมิซียฺ
หากรู้สึกเหมือนจะมีอะไรออกมา จำเป็นต้องพยายามกลั้นไว้ หรือ พยายามทำให้ออก? คำตอบคือ อย่าพยายามทำให้อาเจียนออกมา และอย่าพยายามกลั้น เพราะถ้าเจตนาให้อาเจียนออกมาการถือศีลอดก็เสีย และถ้าหากพยายามกลั้นก็อาจจะเกิดโทษได้ เพราะฉะนั้นให้ทำตัวตามสบาย หากอาเจียนออกมาโดยไม่ได้เจตนา ก็ไม่ทำให้การถือศีลอดเสียแต่อย่างใด
(ฟัต วาเชคอิบนุ อุษัยมีน)
(10) - ตัดผม ตัดเล็บ ขณะถือศีลอด
ถาม : อยากทราบว่าการตัดผม หรือตัดเล็บขณะถือศีลอดทำให้การถือศีลอดเสียหรือไม่?
ตอบ : การตัดผม ตัดเล็บ โกนขนรักแร้ หรือขนในที่ลับ ไม่ทำให้การถือศีลอดเสียแต่อย่างใด
(ฟัตวาคณะกรรมการ ถาวรเพื่อการวิจัยและชี้ขาดปัญหาศาสนา ซาอุฯ)
ถาม : เราจะทราบได้อย่างไรว่าเข้าสู่เดือนรอมฎอน?
ตอบ : ด้วย 2 วิธี คือ
1- การมองเห็นเดือน ดังที่อัลลอฮฺตะอาลาทรงตรัสไว้ว่า
(فَمَن شَهِدَ مِنكُمُ الشَّهْرَ فَلْيَصُمْهُ)
“ดังนั้น ผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้ว ก็จงถือศีลอดในเดือนนั้น” อัลบะเกาะเราะฮฺ : 185
ดังนั้น เมื่อมีการยืนยันจากผู้ที่เชื่อถือได้ ก็จำเป็นต้องปฏิบัติตาม
2- เดือนชะอฺบานครบ 30 วัน
(ฟัตวาเชค ศอลิหฺ อัลมุนัจญิด)
(2) - นอนเยอะในช่วงกลางวันของเดือนรอมฎอน
ถาม : ในเดือนรอมฎอนนั้น หากว่าหลังจากที่เราทานอาหารสุหูรฺและละหมาดฟัจญรฺเสร็จ เรานอนยาวถึงเวลาละหมาดซุฮรฺ เมื่อละหมาดซุฮรฺเสร็จก็นอนต่อจนถึงอัศรฺก็ตื่นละหมาดแล้วนอนต่อถึงมักริบ กระทำเช่นนี้การถือศีลอดของเราถือว่าใช้ได้ไหม?
ตอบ : การถือศีลอดในกรณีนี้ถือว่าใช้ได้ แต่การที่คนเรานอนตลอดทั้งวันนั้นถือเป็นความบกพร่องประการหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ซึ่งเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่มุสลิมจะกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนเองให้ มากๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านอัลกุรอาน หรือ การศึกษาหาความรู้ เป็นต้น
(ฟัต วาคณะกรรมการถาวรเพื่อการวิจัยทางวิชาการและชี้ขาดปัญหาศาสนา ซาอุฯ เล่ม 1 หน้า 129)
(3) - การทานอาหารสุหูรฺเป็นผลดีต่อการถือศีลอด
ถาม : คนที่ไม่ทานสุหูรฺนั้น การถือศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้ไหม?
ตอบ : การถือศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้ เพราะการทานสุหูรฺนั้นไม่ใช่เงื่อนไขในการทำให้การถือศีลอดนั้นใช้ได้ แต่เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้กระทำ (มุสตะหับ) เนื่องจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า :
( تَسَحَّرُوا فإنّ في السحُور بَركةً )
ความว่า “ พวกท่านจงทานสุหูรฺเถิด แท้จริงแล้วการทานสุหูรฺนั้นนำมาซึ่งบะเราะกะฮฺ (ความจำเริญ) ”
บันทึก โดย บุคอรี และมุสลิม
(ฟัตวาเชคอับดุลอะซีซ บิน บาซ จากหนังสือรวมฟัตวาของท่าน)
(4) - กลืนน้ำลายขณะถือศีลอด
ถาม : อยากทราบหุก่มการกลืนน้ำลายในขณะถือศีลอด
ตอบ : เป็นสิ่งที่กระทำได้ ฉันไม่พบว่ามีอุละมาอฺท่านใดเห็นต่างไปจากนี้ เนื่องจากเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงการกลืนน้ำลาย
ส่วนเสมหะและเสลดนั้น หากออกมาถึงช่องปากแล้วจำเป็นต้องคายออกมา และไม่อนุญาตให้กลืนเข้าไป เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต่างจากน้ำลาย วะบิลลาฮิตเตาฟีก
(ฟัต วาเชค บินบาซ ในหนังสือรวมฟัตวาของท่าน เล่ม 3 หน้า 251)
(5) - การใช้ไม้สิวากขณะถือศีลอด
ถาม : มีบางคนพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ไม้สิวากขณะถือศีลอด เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เสียการถือศีลอด ไม่ทราบว่าเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่? และเวลาใดที่เหมาะสำหรับการใช้สิวากในเดือนรอมฎอน?
ตอบ : การหลีกเลี่ยงการใช้สิวากในขณะถือศีลอด นั้นเป็นการกระทำที่ไม่มีหลักฐาน เนื่องจากการใช้สิวากนั้นถือเป็นสุนนะฮฺดังที่ปรากฎในหะดีษเศาะหีหฺ
(السواك مطهرة للفم ومرضاة للرب)
ความว่า “การใช้สิวากนั้น เป็นการทำให้เกิดความสะอาดในช่องปาก และทำให้เกิดความพอพระทัย ณ พระผู้เป็นเจ้า”
ซึ่งส่งเสริมให้กระทำทุกเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทำการอาบน้ำละหมาด,เมื่อจะทำการละหมาด,ตื่นจากนอน หรือเข้าบ้าน เป็นต้น ไม่ว่าจะขณะถือศีลอดหรือไม่ก็ตาม และไม่เป็นการทำให้การถือศีลอดเสียแต่อย่างใด นอกเสียจากว่าไม้สิวากนั้นจะมีรสชาติและทิ้งร่องรอยในน้ำลาย หรือใช้แล้วเกิดมีเลือดไหลออกจากเหงือกหรือไรฟัน เช่นนี้แล้วก็ไม่อนุญาตให้กลืนกินสิ่งเหล่านั้น
(ฟัตวาเชค อิบนฺ อุษัยมีน ในฟิกฮุลอิบาดาต)
(6) - การกินหรือดื่มโดยไม่ได้ตั้งใจ
ถาม : อะไรคือหุก่มของการกินหรือดื่มขณะถือศีลอดด้วยความลืมตัว?
ตอบ : ผู้ที่กินหรือดื่มขณะถือศีลอดโดยที่เขา ไม่ได้เจตนานั้น การถือศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้ แต่ทันทีที่เขานึกขึ้นได้จำเป็นต้องคายออกมาทันทีแม้ว่าจะเป็นเพียงอาหารแค่ คำเดียว ซึ่งหลักฐานที่ระบุว่าการถือศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้นั้น ได้แก่หะดีษซึ่งรายงานโดยท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
(من نسي وهو صائم فأكل أو شرب فليتم صومه فإنما أطعمه الله وسقاه)
ความว่า : “ผู้ใดเผลอกินหรือดื่มในขณะถือศีลอด ก็ให้เขาถือศีลอดต่อไปแท้จริงแล้วอัลลอฮฺได้ทรงประทานอาหารและเครื่องดื่ม แก่เขา” บันทึกโดย บุคอรี และมุสลิม
(ฟัตวาเชค อิบนฺ อุษัยมีน ในฟิกฮุลอิบาดาต)
(7) - การใช้ยาห้ามประจำเดือนในเดือนรอมฎอน
ถาม : อนุญาตให้ใช้ยาห้ามประจำเดือนเพื่อให้สามารถถือศีลอดได้ทั้งเดือนหรือไม่?
ตอบ : สามารถกระทำได้ เนื่องจากเป็นการดีที่มุสลิมะฮฺจะได้ถือศีลอดพร้อมๆกับคนอื่นและไม่ต้องถือ ศีลอดชดภายหลัง ทั้งนี้ในกรณีที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อตัวเธอ เนื่องจากสตรีบางคนเมื่อใช้ยาชนิดนี้แล้วจะทำให้เกิดอาการแพ้
(ฟัตวา เชคบินบาซ ในหนังสือรวมฟัตวาของท่าน เล่ม 15 หน้า 201)
(8 ) - การชิมอาหารขณะถือศีลอด
ถาม : การชิมรสชาติอาหารขณะถือศีลอดทำให้การถือศีลอดเสียหรือไม่?
ตอบ : อนุญาตให้ใช้ลิ้นทำการชิมรสชาติอาหารขณะถือศีลอดได้ แต่ชิมเสร็จแล้วต้องคายออกมาและไม่กลืนกินอาหารนั้นเข้าไป หากผู้ใดเจตนากลืนอาหารเข้าไปถือว่าการถือศีลอดของเขานั้นเสีย ทั้งนี้ ปากนั้นถือเป็นอวัยวะภายนอก การชิมอาหารจึงไม่ทำให้การถือศีลอดเสีย เปรียบได้กับการบ้วนปากในการอาบน้ำละหมาด
(ฟัตวาเชคศอลิหฺ อัลเฟาซาน จาก www.islamway.com)
(9) – การอาเจียน
ถาม : การอาเจียนทำให้เสียการถือศีลอดหรือไม่?
ตอบ : หากว่าเจตนาทำให้อาเจียนก็ถือว่าเสีย แต่ถ้าหากอาเจียนออกมาเองโดยไม่เจตนา เช่นนี้ก็ไม่เสีย ซึ่งหลักฐานที่ระบุถึงประเด็นนี้ได้แก่หะดีษอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า :
"من ذرعه القيء فلا قضاء عليه، ومن استقاء عمداً فليقض"
ความว่า "ผู้ใดที่อาเจียนออกมาโดยไม่ได้เจตนานั้นไม่มีการชดสำหรับเขา และผู้ใดที่เจตนาทำให้อาเจียน เขาก็จงชดเสีย" บันทึกโดย อบู ดาวุด และตัรมิซียฺ
หากรู้สึกเหมือนจะมีอะไรออกมา จำเป็นต้องพยายามกลั้นไว้ หรือ พยายามทำให้ออก? คำตอบคือ อย่าพยายามทำให้อาเจียนออกมา และอย่าพยายามกลั้น เพราะถ้าเจตนาให้อาเจียนออกมาการถือศีลอดก็เสีย และถ้าหากพยายามกลั้นก็อาจจะเกิดโทษได้ เพราะฉะนั้นให้ทำตัวตามสบาย หากอาเจียนออกมาโดยไม่ได้เจตนา ก็ไม่ทำให้การถือศีลอดเสียแต่อย่างใด
(ฟัต วาเชคอิบนุ อุษัยมีน)
(10) - ตัดผม ตัดเล็บ ขณะถือศีลอด
ถาม : อยากทราบว่าการตัดผม หรือตัดเล็บขณะถือศีลอดทำให้การถือศีลอดเสียหรือไม่?
ตอบ : การตัดผม ตัดเล็บ โกนขนรักแร้ หรือขนในที่ลับ ไม่ทำให้การถือศีลอดเสียแต่อย่างใด
(ฟัตวาคณะกรรมการ ถาวรเพื่อการวิจัยและชี้ขาดปัญหาศาสนา ซาอุฯ)
From: Fwd Mail
0 comments: on "ฟัตวาอุละมาอฺว่าด้วยการถือศีลอดและเดือนรอมฎอน"
แสดงความคิดเห็น